สเปอร์ส ลุ้นแชมป์ ศึกคาราบาวคัพ ปลดล็อกแชมป์รอบ 13 ปี
“ไก่เดือยทอง” ทะลุเข้าไป ชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ หลังเปิดบ้านไล่บดเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด จากแชมเปี้ยนชิพ ที่เหลือ แค่ 10 คนท้ายเกม 2-0 ซึ่งนับเป็นการเข้าชิงถ้วยใบนี้เป็นหนที่ 9 และในรอบ 6 ปีหลังจากเคยเข้าชิงถ้วยใบนี้เมื่อปี 2015 โดยจะรอพบผู้ชนะระหว่าง แมนฯยูไนเต็ด หรือแมนฯ ซิตี้ ในวันที่ 25 เมษายนนี้ ที่สนามเวมบลี่ย์ ในศึกคาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
สเปอร์ส ลุ้นแชมป์ ศึกคาราบาวคัพ ปลดล็อกแชมป์รอบ 13 ปี
คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ เมื่อคืน วันอังคารที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่าง สเปอร์ส อันดับ 4 พรีเมียร์ลีก รับการมาเยือนของ เบรนท์ฟอร์ด อันดับ 4 จากแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ โดยเกมนี้จะแข่งขัน แบบนัดเดียวรู้ผล โดยสามารถเปลี่ยนตัวสำรองได้ถึง 5 คน ซึ่งผู้ชนะจะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศในวันที่ 25 เมษายน นี้ ซึ่งรอพบผู้ชนะระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือแมนเชสเตอร์ ซิตี้
โชเซ่ มูรินโญ่ นายใหญ่ของ ไก่เดือยทอง เกมนี้จัดชุดใหญ่ลงสนาม แฮร์รี่ เคน หน้าเป้าโดยมีสามแนวรุกอย่าง ซน ฮึง-มิน, ลูคัส มูร่า และ ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ สนับสนุน ส่วนทางฝั่ง เบรนท์ฟอร์ด ของ โธมัส แฟร้งค์ กุนซือชาวเดนมาร์กหวังสร้างประวัติศาสตร์พาทีมผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรก เกมรุกฝากความหวังไว้ที่ บริย็อง เอ็มเบวโม่, อิวาน โทนี่ย์ และเซร์จี้ กานญอส
นาทีที่ 12
ครึ่งแรก ผ่านมาถึงนาทีที่ 12 เจ้าบ้าน “ไก่เดือยทอง” ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 บอลขึ้นทางซ้าย เซร์คิโอ เรกีลอน ครอสบอลมาเข้าหัว มุสซ่า ซิสโซโก้ ที่ยืนโล่งๆคนเดียวไร้ตัวประกบสะบัดโขกบอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างเฉียบขาด
อีก 3 นาที ถัดมา สเปอร์ส เกือบทำประตูที่ 2 นำห่าง หลัง ลูคัส มูร่า จ่ายเข้ากลางให้ ซน ฮึง-มิน ปั่นเล่นทางแต่บอลยังไม่ห่างมือ ดาบิด ราย่า นายด่านเบรนท์ฟอร์ดพุ่งปัดออกไปหวุดหวิด
นาที 23
เบรนท์ฟอร์ด มาได้ลุ้นหนแรกจากลูกฟรีคิก มาติอัส เยนเซ่น ห้องเครื่องชาวเดนมาร์กเปิดมาให้ เอธาน พินน็อค เซ็นเตอร์แบ็กโขกหลุดกรอบออกไป
ทีมเยือนเริ่มบุกมากขึ้น นาที 35 ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ บริย็อง เอ็มเบวโม่ ครอสเข้าไปให้ อิวาน โทนี่ย์ ขึ้นโขกแต่บอลยังไม่ผ่านมือ อูโก้ โยริส รับไว้ได้
นาที 41
สเปอร์ส ตอบโต้มาอีกครั้งและเกือบได้ลุ้นประตูนำห่างหลัง ซน ฮึง-มิน ครอสเข้าไปให้ ลูคัส มูร่า สอดเข้ามาโหม่งแต่ยังไปติดเซฟของ ดาบิด ราย่า ออกไป
จบครึ่งแรก สเปอร์ส ทำประตูนำ เบรนท์ฟอร์ด ที่ 1-0
ครึ่งหลัง นาที 49
เบรนท์ฟอร์ด เริ่มมาได้อย่างดุเดือด และเกือบได้ลุ้นตีเสมอหลัง ดาวินซอน ซานเชซ แนวรับเจ้าถิ่นเข้าบอลพลาด บริย็อง เอ็มเบวโม่ ลากบอลถึงเส้นหลังแล้วปาดมาหน้าประตูให้ อีวาน โทนี่ย์ ซัดด้วยขวาแต่ยังไปติดบล็อค แซร์ช โอริเย่ร์ ที่ตามมาขวางช่วยให้สเปอร์สไม่เสียประตู
อีกนาทีถัดมา เป็นโอกาสของทัพไก่ ลูคัส มูร่า จ่ายตัดหลังแนวรับให้ แซร์ช โอริเย่ร์ วิ่งเข้ากลางไปรับบอลก่อนจะเลือกยิงด้วยขวาบอลพุ่งเหินคานออกไป
เกมผ่านไปได้ 1 ชั่วโมง รูปเกมเจ้าบ้าน ไม่ได้เหนือกว่าคู่แข่งสักเท่าไหร่ ลูกทีมของ มูรินโญ่ เกือบได้ลุ้นนำห่างอีกครั้งจากจังหวะที่ มุสซ่า ซิสโซโก้ แย่งบอลได้ก่อนตักมาเสาไกลให้ ซน ฮึง-มิน แปเล่นทางบอลพุ่งถากเสาไกลได้อย่างเสียว
นาที 63
เบรนฟอร์ด พลาดได้ประตูไล่ตีเสมออย่างน่าเจ็บใจ หลัง เอธาน พินน็อค โขกย้อนไปเสาสองแต่ไปติดปลายมือ อูโก้ โยริส แต่บอลยังไปเข้าหัว อิวาน โทนี่ย์ โขกซ้ำเข้าไปจ่อๆ ทว่าผู้ตัดสินหลังได้รับสัญญาณจาก VAR ไม่ให้ประตูทีมเยือนเนื่องจาก โทนี่ย์ อยู่ตำแหน่งล้ำหน้าก่อนแล้วทำให้สกอร์ยังเป็น สเปอร์ส นำอยู่ 1-0 เหมือนเดิม
นาที 70
สเปอร์ส มาได้ประตูนำห่างเป็น 2-0 จากการเข้าทำอันสวยงาน แฮร์รี่ เคน จ่ายให้ ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ แทงทะลุช่องให้ ซน ฮึง-มิน หลุดเข้าไปซัดผ่านตัว ดาบิด ราย่า เข้าไปอย่างเด็ดขาด
นาที 84
เบรนท์ฟอร์ด ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนหลัง ไมค์ ดีน ผู้ตัดสินวิ่งไปดูจอ VAR ข้างสนามแล้วกลับมาแจกใบแดงให้ จอช ดาซิลวา ห้องเครื่องทีมเยือนหลังไปเปิดปุ่มสตั๊ดยันใส่หน้าแข้ง ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบียร์ก จนมีเป็นแผล
จบเกม สเปอร์ส ไล่ทุบเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศลีก คัพ เป็นสมัยที่ 9 และเป็นหนแรกในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2015 ที่พ่ายให้ เชลซี
เล่นง่ายจ่ายจริง