เจาะ 4 ประเด็นก่อนเกม แมนยู เยือน ฟูแล่ม
“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมเดินเครื่องเก็บแต้มอย่างต่อเนื่อง เพราะแมตช์ต่อไปพวกเขามีคิวเยือน “เจ้าสัวน้อย” ฟูแล่ม ที่สนามคราเวน ค็อตเทจ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันพุธที่ 20 มกราคมนี้
แมนฯ ยูฯ ยังคงทำผลงานได้ดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเล่นเกมนอกบ้านโดยพวกเขาสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นในเกมลีก 9 แมตช์ติดต่อกันในฤดูกาลนี้ โดยเสมอแค่ 2 เกมเท่านั้น แถมหากนับรวมเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา พวกเขาไร้พ่ายเกมเยือน 16 แมตช์ติดต่อกันเลยทีเดียว
ฉะนั้นหากในเกมปะทะ ฟูแล่ม “น้าลูกอม” สามารถนำทีมเก็บคะแนนได้ นั่นหมายความว่าเขาได้สร้างสถิติไม่แพ้นอกบ้าน 17 เกมติดต่อกันเทียบเท่ากับที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อาจารย์ลูกหนังของเขาได้ทำเอาไว้กับ “ปีศาจแดง” เมื่อปี 1999
1.จัดเต็มทุกขุมกำลัง
เกมนี้ถือเป็นโอกาสทองสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะเก็บ 3 คะแนน เนื่องจาก ฟูแล่ม ไม่ค่อยน่าอภิรมย์เท่าไหร่โดยนับตั้งแต่ที่พวกเขาบุกชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ หลังจากนั้น 7 เกมต่อมาก็สะกดคำว่าชนะไม่เป็นอีกเลย โดยแพ้ 2 เสมอ 5 เกม แต่ที่โดดเด่นก็คือเสมอ ลิเวอร์พูล
ขณะที่เกมในคราเวน ค็อตเทจ เจ้าบ้านก็เล่นไม่ค่อยดีนัก ทำให้แมตช์นี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คงจะใช้ความได้เปรียบในเรื่องของขุมกำลัง และความฮึกเหิมที่มีอยู่ในทีมจัดการส่งผู้เล่นแบบชุดใหญ่ ชนิดที่หวังจะกำราบ “เจ้าสัวน้อย” ให้อยู่หมัดให้เร็วที่สุด
งานนี้สาวก “เร้ด อาร์มี่” คงได้เห็นนักเตะชุดเดิมที่บุกเสมอ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล แบบไร้สกอร์ต ในเกม “แดงเดือด” ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอาจจะมีเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กที่ “น้าลูกอม” น่าจะเลือก เอริก ไบยี่ ลงคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ส่วนแบ็กซ้ายคงเป็น อเล็กซ์ เตลลิส แทน ลุค ชอว์
ขณะเดียวกันเกมนี้ “ปีศาจแดง” ไม่จำเป็นต้องใช้แท็คติกตั้งรับสวนกลับเหมือนในเกมพบแชมป์เก่า ทำให้ โซลชา คงเลือกใช้งานมิดฟิลด์ตัวรับแค่คนเดียวนั่นก็คือ เนมานย่า มาติช และส่งพวกตัวรุกชั้นเชิงสูง และความเร็วจัดจ้านอย่าง เมสัน กรีนวู้ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ เอดินสัน คาวานี่ ไล่ล่าตาข่าย
ด้วยขุมกำลังที่มีอยู่ในมือซึ่งเหลือกว่า ฟูแล่ม งานนี้ แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะได้เห็นทีมรักยิงประตูเป็นกอบเป็นกำแน่นอน
2.ฟอร์มโคตรดุในยามที่ออกไปเยือน
ต้องยอมรับว่าผลงานในการเล่นเกมเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอดเยี่ยมมากๆ เพราะนับตั้งแต่ที่พวกเขาออกไปแพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 ที่แอนฟิลด์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา หลังจากนั้นพวกเขาสะกดคำว่า “แพ้” ไม่เป็นตลอด 16 เกมนอกบ้านติดต่อกัน
ที่สำคัญในฤดูกาล 2020/2021 ฟอร์มการเล่นทีมเยือนของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงน่ากลัวเหมือนเดิมโดยตลอด 9 เกมเยือนในลีกพวกเขาเก็บชัยชนะไปถึง 7 และเสมอแค่ 2 เกมเท่านั้นในแมตช์ปะทะกับ เลสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล
ที่สำคัญผลงานในแมตช์นี้หาก โซลชา สามารถนำลูกทีมบุกชนะหรือเสมอ ฟูแล่ม ได้นั่นหมายความว่าเขาจะทำสถิติเทียบไร้พ่ายเกมเยือนเท่ากับท่านปรมาจารย์ลูกหนัง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่นำทัพ “ผีแดง” ไม่แพ้ใครในการเล่นนอกบ้าน 17 แมตช์ติดต่อกัน เมื่อปี 1999 โดยปัจจุบัน “น้าลูกทีม” นำทีมสะกดคำว่าแพ้เกมเยือนไม่เป็น 16 เกมติดต่อกัน (นับรวมซีซั่นที่ผ่านมา)
แน่นอนว่าโอกาสที่ โซลชา จะก้าวขึ้นมาทำสถิติเทียบเท่า “ป๋า” มีค่อนข้างสูง แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือด้วยฟอร์มการเล่นที่กำลังอยู่ในช่วงติดลมบน ดีไม่ดี นายใหญ่ชาวนอร์เวย์ อาจจะทำลายสถิติไร้พ่ายนอกบ้านที่ยาวนานมากกว่า 22 ปีของท่านเซอร์ก็เป็นไปได้
3.คีย์แมนสำคัญฟูแล่ม และ แมนฯ ยูฯ
แม้ว่า อังเดร-แฟร้งค์ แซมโบ แองกีสซ่า กองกลางทีมชาติแคเมอรูน จะต้องพบกับความยากลำบากในการเล่นให้ ฟูแล่ม ช่วง 2 ปีแรก และโดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ “เรือดำน้ำเหลือง” บียาร์เรอัล เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ฟอร์มของเขาค่อยๆ กลับมาแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อดีตดาวเตะโอลิมปิก มาร์กเซย เป็นผู้เล่นตัวหลักที่กุนซือ สกอตต์ พาร์คเกอร์ ขาดไม่ได้จริงๆ โดยเขาลงสนามให้กับทีมไปแล้ว 17 เกม (ตัวจริง 15 เกม) ในฤดูกาลนี้ โดยทำหน้าที่ตรงกลางสนามได้อย่างดีเยี่ยม และมีส่วนช่วยทำ 2 แอสซิสต์ให้กับ “เจ้าตัวน้อย”
แซมโบ แองกีสซ่า ยังมีฟอร์มการเล่นในการลากเลื้อยที่แข็งแกร่งมากๆ โดยมีแค่ อดาม่า ตราโอเร่ ปีกร่างบึ้กของ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เท่านั้น ที่เลี้ยงบอลหลบคู่แข่งได้มากกว่าเขา ที่สำคัญสถิติของเจ้าตัวแสดงให้เห็นว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของ ฟูแล่ม ในฤดูกาลนี้ ด้วยค่าเฉลี่ย 7.24 เลยทีเดียว
ส่วนของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลายคนอาจจะมองไปที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซึ่งเป็นหัวใจในเกมรุกของทีมมาตลอด และมันก็ถูกต้องแล้ว แต่กระนั้น “ปีศาจแดง” ยังมีคีย์แมนทีเด็ดอีกหลายคนโดยหนึ่งในนั้นก็คือ เอดินสัน คาวานี่ หัวหอกชาวอุรุกวัย
เจ้าของฉายา “เอล มาทาดอร์” ซึ่งย้ายมาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แบบฟรีเอเจนต์ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำผลงานได้ดีมาตลอดไม่ว่าจะลงสนามในฐานะตัวจริงหรือตัวสำรอง ซึ่งเขาสามารถช่วยสร้างความแตกต่างในเกมรุกของ แมนฯ ยูฯ ได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญการเจอกับ ฟูแล่ม ที่คาดว่าคงใช้แผนตั้งรับลึก และคงทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ เมสัน กรีนวู้ด ต้องเจอสถานการณ์อึดอัดในการหาพื้นที่เพื่อใช้ความเร็ว จึงเป็นโอกาสทองที่ โซลชา จะใช้ คาวานี่ ที่มีประสบการณ์และความเฉียบคมในการจัดการกับทีมที่เน้นการเล่นแท็คติกแบบนี้
4.สามแต้มเพื่อกดดันคู่แข่งแย่งแชมป์ลีก
แม้ว่าตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะหล่นมาอยู่ในอันดับ 2 ของตารางลีกก็ตาม เนื่องจาก เลสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งจัดการสอย เชลซี ในเกมลีกเมื่อวันอังคารที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา แต่พวกเขาก็สามารถแซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูงได้หากคว้าชัยชนะในเกมเยือน ฟูแล่ม
แน่นอนว่าการคว้า 3 คะแนนไม่ใช่แค่การกลับไปยืนบนหัวตารางลีกเท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียกขวัญกำลังใจให้กับทีมทันที และยังโยนแรงกดดันไปให้กับบรรดาทีมตามทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เลสเตอร์ รวมทั้ง ลิเวอร์พูล ที่จะต้องห้ามพลาดเด็ดขาดหากยังต้องการมีเอี่ยวกับแชมป์ลีก
อย่าลืมว่าตอนนี้เข้าสู่ครึ่งทางของฤดูกาล 2020/2021 ฉะนั้นทุกแต้มมีความสำคัญมากๆ โดยเฉพาะบรรดาทีมหัวตาราง เพราะเพียงแค่การพลาดท่าเกมหรือสองเกม อาจจะนำไปสู่อันดับในตารางที่เปลี่ยนไปอย่างน่าใจหาย
ไม่เชื่อก็ลองดู ลิเวอร์พูล การไร้ชัยชนะ 4 แมตช์ติดต่อกันส่งผลให้พวกเขาต้องหล่นไปอยู่ในอันดับ 4 และถ้าหากยังเรียกฟอร์มแชมป์กลับมาไม่ได้ งานนี้การลุ้นอันดับท็อปโฟร์อาจจะเป็นงานที่ยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาด้วย
เจาะ 4 ประเด็นก่อนเกม แมนยู เยือน ฟูแล่ม