120 นาทีไม่มีสกอร์ ปราสาท ยิงเป้าดับ สิงห์เจ้าท่า 8 ทีมเอฟเอคัพ
เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 9 “สิงห์เจ้าท่า” ได้ลุ้นโอกาสแรกจากฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ แต่ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ปั่นบอลเหินข้ามคานออกไป
3 นาทีถัดมา
ทีมเยือน “ปราสาทสายฟ้า” ได้ลุ้นบ้าง หลัง ดิเกา ตัดบอลจากจังหวะสวนกลับของการท่าเรือ แล้วลากไปซัดด้วยซ้าย บอลเฉียดเสาออกไปแบบได้ลุ้น
ผ่านครึ่งชั่วโมง การท่าเรือ แก้เกมเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนแรก ส่ง นูรูล ศรียานเก็ม ฮีโร่จากนัดที่แล้ว ลงเล่นแทน ปกรณ์ เปรมภักดิ์
นาทีที่ 37
การท่าเรือ ได้ฟรีคิกอีกครั้ง คราวนี้เป็น เควิน ดีรมรัมย์ รับหน้าที่ปั่นด้วยซ้ายข้างถนัด ทว่าบอลโค้งหลุดเสาไกลออกไป
ช่วงท้ายครึ่งแรก โก ซุลกิ ได้บอล ก่อนกดเต็มข้อจากระยะประมาณ 35 หลา บอลพุ่งกำลังจะเสียบเสา แต่ ศิวรักษ์ ยังบินปัดได้อย่างหวุดหวิด
จบ 45 นาทีแรก
การท่าเรือ เอฟซี ยังเสมอกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-0
กลับมาสู้กันต่อครึ่งหลัง บุรีรัมย์ เปิดเกมบุกใส่ทันที และได้ลุ้นจากลูกยิงของ ศุภชัย ใจเด็ด แต่ไปแฉลบผู้เล่นการท่าเรือออกหลัง
นาทีที่ 56
โอกาสลุ้นอีกครั้งของ “ปราสาทสายฟ้า” จาก ซามูเอล โรซา กอนคัลเวส ได้กดเต็มข้อบริเวณกรอบ 18 หลา แต่ รัตนัย ส่องแสงจันทร์ ยังพุ่งปัดออกไปได้หวุดหวิด
นาทีที่ 60
การท่าเรือ แก้เกมเปลี่ยน 2 คนรวดส่ง ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา และ ศิวกร จักขุประสาท ลงเล่นแทน บดินทร์ ผาลา และ ชาริล ชัปปุยส์ ขณะที่ บุรีรัมย์ ส่ง ทินกร อสุรินทร์ ลงเล่นแทน ดิเกา หลังจากนั้น นาทีที่ 66 บุรีรัมย์ ส่ง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ลงเล่นแทน ศุภชัย ใจเด็ด
นาทีที่ 79
การท่าเรือ ได้ลุ้นจาก ณัฐวุฒิ สมัติโยธา สอดขึ้นมาในกรอบเขตโทษ ก่อนได้จังหวะตะบันเต็มข้อ แต่บอลเหินข้ามาคานไปอย่างเฉียดฉิว
นาทีถัดมา “สิงห์เจ้าท่า” ได้ลุ้นอีกครั้ง หลัง เนลสัน โบนีญ่า โหม่งชงให้ เซร์คิโอ ซัวเรซ วอลเลย์ แต่บอลเหินข้ามคานออกไปแบบอย่างน่าเสียดาย
2 นาทีถัดมา
ท่าเรือ โหมบุกหนัก นูรูล ได้จังหวะเปิดจากกราบขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ นฤบดินทร์ โขกสกัดบอลมาเข้าทาง ซัวเรซ แต่งเข้าขวาข้างถนัดแล้วหวดเต็มข้อ ทว่าบอลหลุดเสาแรกออกไปอีก
ท้ายเกม บุรีรัมย์ ส่ง ปิยพล ผานิชกุล ลงมาแทน แบรนดอน โอนีล แต่ช่วงเวลาเหลือ ยังไม่มีทีมใดพังประตูได้ จบ 90 นาที เสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที
นาทีที่ 95
การท่าเรือ น่าได้ประตูขึ้นนำ หลัง ทินกร อสุรินทร์ โหม่งเคลียร์ไม่ดีในเขตโทษ บอลไปเข้าทาง เนลสัน โบนีญ่า วอลเลย์ด้วยซ้าย แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังล้มตัวเซฟไว้ได้ติดมือ
นาทีที่ 100
การท่าเรือ เปลี่ยน 2 คนรวด ส่ง อดิศักดิ์ ไกรษร ลงแทน เนลสัน โบนีญ่า และ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ลงแทน นูรูล ศรียานเก็ม ที่เจ็บ ส่วน บุรีรัมย์ เปลี่ยน ไมคอน ลงแทน ซามูเอล โรซา กอนคัลเวส ในนาทีที่ 105
ช่วงทดเวลาครึ่งหลัง นาทีที่106 “สิงห์เจ้าท่า” ทำเกมบุกต่อเนื่อง ศิวกร จักขุประสาท ล็อกบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนปั่นโค้งๆ แต่ ศิวรักษ์ ยังเซฟไว้ได้
นาทีที่ 115
การท่าเรือ ได้จังหวะสวนกลับ เควิน ดีรมรัมย์ ติดเครื่องจากครึ่งสนาม ก่อนกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปในกรอบเขตโทษ แนวรับทีมเยือนสกัดผิดเหลี่ยมบอลพุ่งกำลังจะเข้าประตู ทว่า ศิวรักษ์ ยังเหินปัดไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ
ช่วงเวลาที่เหลือ ยังไม่มีทีมใดยิงประตูได้ จบ 120 นาที เสมอ 0-0 ต้องตัดสินหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ
ผลปรากฏว่า ดวลกันถึง 10 คน ก่อนที่ “ปราสาทสายฟ้า” ยิงแม่นกว่า เอาชนะไปได้ 9-8 ตีตั๋วผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป
120 นาทีไม่มีสกอร์ ปราสาท ยิงเป้าดับ สิงห์เจ้าท่า 8 ทีมเอฟเอคัพ